มาดู 5 เหตุผลว่าทำไมสนามบูกิต จาลิล เนชันแนล สเตเดียม สนามเหย้าของมาเลเซีย ที่ช้างไทยต้องไปเยือนด้วยความกดดัน
พื้นสนามมาเลเซียเคยชินกว่าไทย : หากว่าไทยจะมีความสามารถตัวผู้เล่นหรือผู้จัดการทีมที่ดูดีกว่า แต่ว่าการเป็นเจ้าของบ้านของมาเลเซียจัดว่าเหนือกว่าไทยอยู่นิดหน่อย พื้นสนามที่คลุกคลีฝึกเพื่อลงแข่งขันอยู่ทุกวี่วัน รวมทั้งแฟนบอลที่เข้ามาเต็มปริมาตร จะมีผลให้ไทยพบงานยากอีกรอบ
พบกันมาปัจจุบันไทยแพ้ : ซูซูกิ คัพ 2018 นัดล่าสุดที่กลุ่มชาติไทยพบกับมาเลเซียที่สนามแห่งนี้ในรอบชิงแชมป์เลกสองวันที่ 20 เดือนธันวาคม ปี 2014 ปรากฎว่าช้างศึกบุกไปตามหลัง 0-3 ก่อนที่จะปราชัย 2-3 แน่ๆเกมนี้ไทยปรารถนาชำระแค้นแม้กระนั้นไม่ใช่งานง่ายแน่
ระวังการวินิจฉัยของผู้ตัดสิน : นับว่าส่งผลพอควรกับการวินิจฉัยของผู้ตัดสิน จังหวะกังขา จังหวะ 50/50 ถ้าหากพบผู้ตัดสินที่ดีก็รอดตัวไปแข่งขันกันแบบแฟร์ๆเป็นกลาง แต่ว่าถ้าเกิดพบผู้ตัดสินที่ถูกใจวินิจฉัยเข้าข้างเจ้าของบ้านเมื่อใดละก็ มีหัวข้อข้างหลังเกมยาวแน่
จุคนมากมายสุดในอาเซียน : สนามบูกิต จาลิล เนชันแนล สเตเดียมเป็นสนามที่จุคนเข้าชมเยอะที่สุดในอาเซียน 87,411 คน รวมทั้งน่าไว้วางใจเลยว่าเกมแลกเปลี่ยนแรก ลำแข้งช้างศึกหันไปทางไหนจะเจอกับสีเหลืองรายลอบล้อมรอบๆรอบสนาม ซึ่งเป็นสีประจำชาติของมาเลเซีย
กองเชียร์มาเลย์ซื้อตั๋วเต็มปริมาตร : อย่างที่ข่าวสารออกมาก่อนหน้าที่ผ่านมาว่า แฟนบอลมาเลเซียบ้ามากมายแห่ซื้อตั๋วเต็มปริมาตร87,000 กว่าที่นั่ง เพื่อจัดแจงมาเชียร์ชาติของเขาแข่งขันในบ้านเกิดพร้อมทั้งสร้างความฮึกเหิมให้กับตัวนักฟุตบอล แล้วก็โน่นอาจจะส่งผลให้แข้งช้างศึกบางบุคคลกำเนิดอาการอาย ขาสั่นเวลาลงเล่นในสนามที่นี้
ดังนี้การแข่งขันชิงชัยซูซูกิ คัพ รอบรองชนะเลิศเลกแรก ระหว่างกลุ่มชาติมาเลเซีย เจอ กลุ่มชาติไทย จะแข่งขันกันในวันที่ 1 เดือนธันวาคมเวลา 19.45 น. ตามเวลาไทย