การคุมกำเนิดแบบชั่วคราว แน่นอนว่ามีหลากหลายวิธีทั้งการกินยาคุม ฉีดยาคุม ใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด ไปจนถึงการฝังยาคุม และแน่นอนค่ะวันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องเกี่ยวกับการฝังยาคุมกัน ว่าฝังแล้วจะมีผลข้างเคียงมากน้อยแค่ไหน? ป้องกันได้กี่เปอร์เซ็นต์ ฝัง 1 ครั้งอยู่ได้กี่ปี? หรือแม้แต่ฝังแล้วจะอ้วนขึ้นไหม? ไปดูกันเลยค่ะ…
ยาคุมกำเนิดแบบฝังคืออะไร
ยาคุมกำนิดแบบฝัง หรือ Implantable Contraceptive หรือ Contraceptive Implant เป็นยาคุมกำเนิดแบบชั่วคราว ที่มีความสามารถในการออกฤทธิ์ยาวนาน 3-5 ปี มีลักษณะเป็นหลอดบรรจุฮอร์โมนขนาดเล็กยาวประมาณ 3 เซนติเมตร ภายในบรรจุฮอร์โมนในกลุ่มโพรเจสติน (Progestin) ซึ่งจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากถึง 98%
การทำงานของยาคุมกำเนิดแบบฝัง
ยาคุมกำเนิดแบบฝัง เป็นหลอดขนาดเล็กที่บรรจุฮอร์โมนโพรเจสติน (Progestin) ที่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์เอาไว้ เมื่อหลอดยาคุมถูกฝังอยู่ในตัวเรา ฮอร์โมนโพรเจสตินจะค่อยๆถูกปล่อยออกมาจากหลอดยาคุมเข้าสู่กระแสเลือด เพื่อไปยับยั้งการพัฒนาหรือเติบโตของฟองไข่ในรังไข่ของผู้หญิง ทำให้ไม่เกิดการตกไข่ และไม่มีไข่เพื่อไปปฏิสนธิกับอสุจิได้ นอกจากส่งผลไม่ให้ไข่ตกแล้ว ยังมีกระบวนการผลิตเมือกเหนียวข้นที่ปากมดลูก ส่งผลให้ตัวอสุจิเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ยากยิ่งขึ้น
ตำแหน่งการฝังยาคุม
การฝังยาคุม แพทย์จะฝังหลอดยาคุมที่บริเวณใต้ท้องแขนท่อนบน โดยจะมีรอยแผลผ่าเพียงเล็กน้อย
วิธีการฝังยาคุม
- แพทย์ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณใต้ท้องแขนท่อนบนจุดที่จะทำการฝังด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
- ฉีดยาชาเฉพาะที่ เพื่อลดอาการเจ็บปวด
- ใช้เข็มเปิดแผลเพียงเล็กน้อย และสอดแท่งนำหลอดฮอร์โมนเข้าไปในเข็ม เพื่อสอดหลอดฮอร์โมนเข้าใต้ผิวหนัง
- นำเข็มและแท่งนำหลอดยาออก แล้วทำการปิดปากแผลด้วยพลาสเตอร์เล็กๆ พร้อมมันแผลทับอีกชั้น
- เมื่อทำแผลเสร็จ แพทย์จะจ่ายยาแก้ปวด รับประทานเมื่อมีอาการปวด
- กลับบ้านได้
ฝังยาคุมแล้วจะออกฤทธิ์ตอนไหน
ยาคุมกำเนิดแบบฝังสามารถออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีเมื่อฝัง หากเป็นการฝังในช่วง 5 วันแรกของการมีประจำเดือน หากฝังนอกเหนือจากในช่วง 5 วันแรกในการมีประจำเดือน ตัวยาจะสามารถออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ภายหลังการฝัง 7 วันขึ้นไป
นำยาคุมที่ฝังอยู่ออกได้ตอนไหน
ยาคุมกำเนิดแบบฝังจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 3-5 ปี แล้วแต่ชนิดที่เลือกใช้ เมื่อครบกำหนดอายุการใช้งานควรนำออกแล้วฝังใหม่ หรือหากต้องการมีบุตรก็สามารถไปพบแพทย์เพื่อขอเอาออกได้เลยทันที
สถานที่ที่สามารถฝังยาคุมได้
- โรงพยาบาล
- คลินิกที่มีแพทย์ที่ผ่านอบรมและรับรองในเรื่องของการฝังยาคุมโดยเฉพาะ
กรณีการฝังยาคุมและถอด ไม่สามารถทำได้โดยแพทย์ทั่วไป จะต้องเป็นแพทย์ที่ผ่านการอบรมและผ่านการรับรองอย่างถูกต้องแล้วเท่านั้น
ผลข้างเคียงจากการฝังยาคุม
- ประจำเดือนมาไม่ตรง
- ประจำเดือนขาด
- อารมณ์แปรปรวน
- คลื่นไส้
- ปวดศีรษะ
- ปวดท้อง
- เจ็บเต้านม เมื่อกด
- สิวขึ้น
- บวมน้ำ
- น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น ในบางราย
- มีภาวะซึมเศร้า
- ยาคุมกำเนิดแบบฝัง อาจมีผลต่อปฏิกิริยาของยาชนิดอื่นๆ
ผลข้างเคียงดังกล่าวอาจพบได้ในบางรายเท่านั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากมีผลข้างเคียงที่รุนแรงควรเข้าปรึกษาแพทย์อย่างเร็วที่สุด
การฝังยาคุมกำเนิดเป็นเพียงตัวช่วยในการป้องกันการตั้งครรภ์แบบชั่วคราวเท่านั้น เพื่อการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นควรป้องกันด้วยวิธีคุมกำเนิดอื่นๆร่วมด้วย เช่น การใช้ถุงยางอนามัย